[review] ## 7 ที่เที่ยวเชียงใหม่ พร้อมงาน Toyota Motorsport กับจักรยานคู่ใจสไตล์คนรักสุขภาพ, วิธีนำจักรยานขึ้นเครื่อง By โด-D-โด้##

 
 
 
     สวัสดีครับผมโด้ครับ ส่วนตัวผมเป็นคนชอบออกกำลังกายและรักสุขภาพ ผมเคยเขียนวิธีการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่บ้านกับการสั่งอาหารข้างทางยังไงให้หุ่นเป๊ะไปแล้ว วันนี้อยากเล่าความประทับใจเกี่ยวกับทริปเชียงใหม่ที่เพิ่งผ่านมาได้ไม่นานนี้หน่อยครับ แต่ไม่ต้องห่วงครับเช่นเคยมีการออกกำลังกายแน่นอนสไตล์ผมแล้วว่างไม่ได้เห็นอะไรที่ออกกำลังกายได้แล้วคันไม้คันมือ ฮ่าาา รอบนี้พิเศษหน่อยผมพกลูกชายคนเล็กไปด้วย เจ้าเปี๊ยกลูกชายคนเล็กเป็นจักรยานพับได้นั่นเอง!!!!
 
ประเด็นประมาณนี้นะครับ
-  กฏระเบียบในการนำจักรยานขึ้นเครื่องบิน และวิธีนำจักรยานขึ้นเครื่องบินที่ง่ายที่สุด
- 7 ที่เที่ยวเชียงใหม่กับจักรยานคู่ใจสไตล์คนรักสุขภาพ
  1. ซุ้มเฮียฮ๋ง
  2. สวนสาธารณะหนองบวกหาด
  3. ร้านโอ๋กะจู๋
  4. วัดสกิทาคา(ผาลาด)
  5. ถนนคนเดิน
  6. สวนสาธารณะบนที่ดินของการรถไฟ
  7. งาน Toyota Motorsport


1. กฏระเบียบในการนำจักรยานขึ้นเครื่องบิน และวิธีนำจักรยานขึ้นเครื่องบินที่ง่ายที่สุด
พอตัดสินใจจะพาลูกคนเล็กไปด้วยก็เริ่มหาข้อมูลการเอาจักรยานขึ้นเครื่องเลยครับเลยไปถามอากู๋ google หาอ่านจากหลายแหล่งสรุปงงครับ 5555 อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจผมเป็นคนเข้าใจอะไรยาก และกลัวข้อมูลไม่อัพเดทด้วย โทรถามเลยละกันเอาสัก 4 สายการบิน ได้ข้อมูลสรุปว่า (ข้อมูลวันที่ 10/09/58)

***เงื่อนไขหลัก ๆ คล้าย ๆ กันคือ***
-  ปล่อยลมยางออกประมาณ 50% กันยางระเบิดครับเพราะความดันในห้องกระเป๋าบนฟ้ามันไม่เหมือนตอนอยู่บนดิน
-  แพ็ค/ห่อให้เรียบร้อย แฮนหันไปทางเดียวกับล้อหน้า บางสายการบินให้ถอดล้อด้วย
 
1. Air Asia
เอาไปได้เงื่อนไขตามข้างบนแต่มีค่าใช้จ่ายตามน้ำหนักของจักรยานครับ รายละเอียดตามนี้เลย
- 15 กิโลกรัม 510 บาท
- 20 กิโลกรัม 550 บาท
- 25 กิโลกรัม 648 บาท
 
2. Nok Air
     ทำตามเงื่อนไขด้านบน เอาไปได้และฟรีด้วย จำกัด 1 คนต่อ 1 คันครับ (เคยอ่านมาในพันทิพย์มามีแบบเอาขึ้นได้ทั้งคันไม่ต้องห่อด้วยเข็นขึ้นไปเลย เสียเงินเพิ่ม 200 บาท แต่ยังต้องปล่อยลมนะครับ ข้อมูลนี้ไม่ชัวร์ว่าหมดโปรไปหรือยัง ใครไม่อยากห่อลองโทรถามข้อมูลอัพเดทดูนะครับ)
 
3. Bangkok Airways
เอาไปได้ฟรีด้วยหมดเขตฟรีวันที่ 24 ต.ค. 58 (น้ำหนักคิดแยกกับกระเป๋าเดินทางของเรานะ) 1 คนต่อ 1 คัน
เงื่อนไขเพิ่มเติม
- กล่องที่แพ็คต้องมีขนาดไม่เกินนี้ กว้าง 145 x ยาว 160 x สูง 110 หน่วยเป็นเซ็นนะครัช
- ต้องถอดล้อ และปล่อยลมยางออก (มันยากตรงถอดล้อนี่หละ)
- หลัง 24 ต.ค. 58 จะคิดน้ำหนักรวม 20 kg หากเกินจะคิด 80 บาท/กก
 
4. Thai Airways
เอาไปได้เฉพาะแบบพับได้เท่านั้นนะครัช ภูเขากับหมอบหมดสิทธิ์ T_T
 
     ด้วยการที่ผมขี้เกียจห่อเพราะขากลับก็ต้องห่ออีกหลายรอบเลยทีนี้ ยังไงคันนี้ก็ต้องติดตัวไปด้วยกันอีกนาน สรุปตัดสินใจซื้อกระเป๋าเดินทางที่ใส่ได้ดีกว่า ^_^ จบเรื่องเลยทีเดียว (จริง ๆ แล้วมีกระเป๋าสำหรับใส่จักรยานโดยเฉพาะขายนะครับ มีระบบกันกระแทกข้างในอย่างดีเลย แต่เห็นราคาแล้วน้ำตาจิไหล แพงเกิ๊น จักรยานผมก็จัดมาคันเล็กอยู่แล้วกระเป๋าเดินทางแบบแข็งน่าจะเอาอยู่ ฮ่าาา) ตอนซื้อจักรยานมาคนขายบอกว่าเอาใบใหญ่สุดในร้านจะใส่ได้พอดี เพื่อความชัวร์ผมวัดกว้าง ยาว สูงไปด้วย ไปตระเวณหากระเป๋ากัน!!!


     เริ่มกันที่ Union Mall ตั้งงบไว้ 2-3 พันบาท ไปเจอร้านนึงมีใหญ่สุด 29 นิ้ว มันดูเหมือนจะใส่ได้แต่ขนาดมันฟิต ๆ มันพอดีเป๊ะ ๆ เหมือนจะขาดหน่อย ๆ ด้วย นี่ขนาดมีซิบขยายด้วยแล้วนะ ผมไม่ชัวร์ปล่อยผ่านก่อน เดินข้ามมาหาที่เซ็นทรัลลาดพร้าวบ้าง เจอ 28 นิ้วเหมือนจะได้แต่มันพอดีเป๊ะเลยปล่อยอีกเหมือนกัน สุดท้ายใจไม่กล้าพอครับกลับบ้านมือเปล่า 555 แต่เท่าที่เช็คราคามาไซต์นี้มัน 3-5 พันเด้อๆๆๆ เกินงบ น้ำตาจิไหลแต่ก็ต้องกัดฟันเอาสักใบครับ งานนี้มีเจ็บแต่จบ ครัช
 
 
     วันรุ่งขึ้นขนลูกรักขึ้นรถไปด้วยเลยคราวนี้ไปเดินหาดูที่ซีคอนสแควร์ศรีนครินทร์ครับใกล้บ้านดี ไปได้ที่โรบินสันใส่ได้พอดีเป๊ะ ๆ ขนาด 29 นิ้วครับ(29นิ้วบางทรงใส่ไม่ได้นะ มันได้แค่ตัวนี้ตัวเดียวไม่งั้นก็ต้องหลุดไป 30 นิ้ว++ เลยมี 5 พันอัพเลยจร้าาา)


เรียบร้อยใส่เสร็จลากกลับกลับบ้านเลยทีเดียว ตัวเบาครับโดนไปเกือบ 4 พัน T_T ฮ่า
 
     สรุปเรื่องสายการบิน ผมเลือกนกแอร์ครัชเหตุผลเพราะแอร์สวย เฮ้ยไม่ใช่ เพราะเอาไปได้ฟรี!!! ครัช ผมเอาจักรยานใส่กระเป๋าแล้วด้วยสะดวกเลยตอนเช็คอินผมบอกว่าในนี้มีจักรยานนะขอป้ายกันแตกให้ด้วยเด้อ ฝากดูแลด้วยนะครับคันนี้รักมาก แล้วส่งยิ้มหวานให้พนักงาน 1 ที อิอิ  ^_^


บ๊าย บาย....เจอกันที่เจียงใหม่นะลูก ^_^

 
* * * สรุปวิธีนำจักรยานขึ้นเครื่องบินที่ง่ายที่สุด(สำหรับผม) คือ......หากระเป๋าเดินทางแข็ง ๆ ใส่ซะแล้วโหลดแบบสัมภาระปกติครับ แค่แจ้งว่าข้างในเป็นจักรยานกับขอป้ายระวังแตกครับผม * * *
 
ปล. เกือบลืมปล่อยลมยาง นึกขึ้นได้เลยเปิดกระเป๋ามาปล่อยลมก่อนจะส่งโหลดครับ
ปล.2 ผมเอาที่สูบลมติดตัวไปด้วยไม่ต้องกังวลเรื่องหาร้านจักรยาน ^_^

 
มาต่อกันที่ส่วน 2 เลยครับ อาจจะยาวสักหน่อยแต่ภาพสวยครับเชิญชมกันได้เลย!!!

     7 ที่เที่ยวเชียงใหม่กับจักรยานคู่ใจสไตล์คนรักสุขภาพ เที่ยวบ้าง ออกกำลังกายบ้าง กินบ้างไปเรื่อยเปื่อยสไตล์ผมนะครับอย่างละนิดอย่างละหน่อย ไม่ได้ถึงกับรีวิวละเอียดนะครับออกตัวก่อนเลย ผมแค่อยากเล่าทริปเชียงใหม่ที่ผมได้สัมผัสมาในมุมมองของคนรักสุขภาพครับผม ^_^


 
     ผมพักที่นี่ครับ โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส เชียงใหม่ อยู่ชั้น 8 เตียงนิ่มสบายดีนะครับ มีมุมให้นั่งทำงานด้วย มีแอปเปิ้ลให้ด้วยผมชอบแอปเปิ้ล ถูกใจ ๆ ^_^


 
     อาบน้ำเสร็จจะนอนเลยก็กะไรอยู่ คืนนี้ขอชมเชียงใหม่ยามราตรีสักหน่อยนะครัช สุดท้ายมาจบที่นี่ มาตามคำล่ำลือซุ้มเฮียฮ๋ง บะหมี่พ่อมึงตาย(ขออภัยถ้าเป็นคำหยาบ แต่มันเป็นชื่อเมนูของเค้าจริง ๆ ครัช) เมนูนี้ชื่อว่าคุ้มง่าว ๆ บะหมี่ 24 ก้อน ไข่ลวก 4 ฟอง เกี๊ยวรอบจาน(หรือว่ากะละมังหว่า อิอิ) รุมกินกันกับเดอะแก๊งซ์พุงกางกันไปตามระเบียบ ผมหละชอบคำคมเฮียจริง ๆ เป้าหมายชัดเจนมาก “สู้เพื่อ......เมีย!!!” 555


 
     ไหน ๆ ก็มาแล้วเดี๋ยวเพื่อน ๆ ไม่เชื่อขอถ่ายคู่กับเฮียหน่อยละกัน ^_^ ผมมองว่าจุดเด่นของร้านนี้นอกจากจะเป็นเรื่องของรสชาติน้ำซุปที่อร่อย กับหมูที่ชุ่มฉ่ำแล้วก็คือเฮียแกนี่หละ เฮียแกฮามาก มุขแพรวพราว พูดแบบเป็นกันเอง(แต่เสียงดัง เหมือนโวยวาย ฮ่าาา กันเองดีครับ) กินไปตกใจไปทุก 5 นาที เฮียแกตะโกนบอกเด็ก ๆ ในร้านให้เก็บโต๊ะ จัดโต๊ะ และสั่งออเดอร์ 555 “เฮ้ยจัดโต๊ะเร็ว!!!” เฮ้ยทีน้ำซุปแทบพุ่ง ฮ่าาา
 

 
     เช้าวันรุ่งขึ้นผมตรงดิ่งไปสวนนี้เลยครับแอบเปิดแผนที่ดูตั้งแต่เมื่อวานหาสวนใกล้โรงแรมมาจบที่ สวนสาธารณะหนองบวกหาดนั่นเอง!!! ห่างจากโรงแรมไม่เกิน 3 กม. ครับ ปั่นจักรยานไปได้สบาย ๆ ชิลมาก ๆ ปกติผมเอาลูกชายคนโตซัดรอบสนามบินอยู่แล้ว 23.5 กม. แค่ 3 กม. นี่จิ๊บ ๆ อิอิ


 
     สวนหนองบวกหาดนี่ เป็นสวนเล็ก ๆ ครับไม่ใหญ่มาก คนไม่ค่อยเยอะครับ แต่ก็มีมาวิ่งรอบ ๆ สวนอยู่บ้าง แดดกำลังดีครับไม่ร้อนมากฟ้าเป็นฟ้าจริง ๆ ฟ้าที่เชียงใหม่เนีย ^_^ ตื่นเต้นครับ เพิ่งเคยมาเชียงใหม่ครั้งแรก


 
     นกที่นี่ไม่กลัวคนเลยครับ อุส่าส่งเสียงให้ตกในบินขึ้นมาจะได้ถ่ายรูปสวย ๆ ดันบินไปเกาะข้าง ๆ ซะอีก 555 พอสิ้นเสียงเดินกลับมากินอาหารต่อสบายใจเลยนะ - -* เกือบจะได้รูปหล่อ ๆ แล้วเชียว สุดท้ายไปหาซื้ออาหารมาให้นกกินเพิ่มอีกเอาให้อิ่มพุงกางกันเลยทีเดียวเชียว


 
     เห็นเสาไม่ได้ แวะซ้อมท่านี้สักหน่อย Human Flag นั่นเอง ท่านี้เป็นสุดยอดเป้าหมายที่ผมอยากทำได้เลยนะครับ สิ้นปีนี้จะเอาให้ได้!!! สารภาพจากใจเลย ท่านี้ทำยากมาก ต้องแกนกลางลำตัวแข็งแรงจริง ๆ ส่วนภาพที่เห็นผมทำนั้นไม่ยากเท่าไหร่ครับแค่ต้องใช้กล้องที่ชัตเตอร์ความเร็วสูงเท่านั้นเอง 555
 

 
     ขอพูดอะไรเกี่ยวกับมารยาทในการขับรถของที่นี่หน่อยนะครับ คนที่นี่ขับรถมีน้ำใจมากกกก ถึงมากที่สุดครับ แค่เห็นผมทำท่าจะข้ามถนนเนียรถชลอความเร็วหมดเลย ผมหละประทับใจจริง ๆ นะครับ ไฟแดงคนข้ามถนนก็ทำงานได้ดีมาก กดปุ๊บรอแป๊ปเดียวได้ข้ามเลยน่าจะไม่ถึง 10 วินะครับช่างแตกต่างกับใน กทม. ที่ผมอยู่เสียเหลือเกิน กดทีรออย่างนาน บางทีไปเจอเสาร์ที่เสียก็ไม่ยอมบอกกันบ้างเลย....ยืนรอตั้งนาน ฮ่าาา กลับโรงแรมมาอาบน้ำแต่งตัวลงมาทานเบรคฟาส พักผ่อนเดี๋ยวเที่ยง ๆ ไปหาอะไรอร่อย ๆ กินดีกว่าได้ยินมาว่าแถวนี้มีร้านอาหารที่มีฟาร์มผักออแกนิคอยู่หลังร้านด้วยสายสุขภาพอย่างผมมีหรือจะพลาด.....
 

 
     และแล้วก็มาถึงจนได้……..ร้านโอ้กะจู๋นั่นเอง!!! ชื่อร้านเนียเอาซะผมคิดลึกเลย 555 ลูกค้ารอคิวเต็มร้านเลยครับ ร้านนี้ขายดีมากแต่ก็รอคิวไม่นาน พอสั่งอาหารเสร็จระหว่างรอผมขอไปชมฟาร์มผักสักหน่อย สวยดีครับนะครับผมชอบอะไรสีเขียว ๆ อยู่แล้วด้วย


 
     เป็นแปลง ๆ แบบนี้ครับ มีโซนที่ปลูกต้นเล็ก ๆ อยู่มุมนึง เจ้าหน้าที่กำลังทำงานกันอย่างขมักเขม่นเดินชมเล่นเพลิน ๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง อธิบายด้วยภาพละกันนะครัช ^_^


 
     เห็นพี่เค้าทำงานอยู่เลยขอแจมด้วยสักหน่อย อยากสัมผัสความรู้สึกตอนใช้จอบ ฮ่าาา บ่องตรงไม่ได้จับจอบมานานมากแล้วววว ตั้งแต่สมัยประถมศึกษาตอนเรียนเกษตร 555 น่าจะ 20 กว่าปีได้ ทำไมผมแก่อย่างนี้ T_T  ใช้แรงดีนะครับ เป็นการออกกำลังกายด้วยไปในตัว ฮ่าาา
 

 
     พออาหารขึ้นโต๊ะพนักงานก็เดินลงมาตาม น่ารักมากจริง ๆ ผมจัดไปหลายเมนูเลยลืมบอกไปมีให้เลือกมิกผักสลัดเองด้วย แจ๋วไปเลยยยย (ดูจากรูปได้เลยครับ) ผมกินหลายอย่างมาก บอกตรง ๆ ตกใจกับจานนิดนึงเพราะมันใหญ่มากจะกินหมดมั๊ยเนียยยย


 
     ทานเสร็จแล้วก็ไปฟิตเทสสักหน่อย แข็งแรงอย่างเรามันต้องขึ้นดอย!!! ป่ะลูกพ่อไปเทสกัน ดอยเชียงใหม่มันจะสักแค่ไหนกันเชียว นี่เลยครับสตาร์ทตรงนี้ ไหวพระครูบาศรีวิชัยก่อนเอาฤกษ์เอาชัยเสริมศิริมงคลก่อน หยิบจักรยานออกจากท้ายรถกางจักรยานเรียบร้อยเตรียมตัวลุย!!!


 
     เห็นแก๊งซ์เสือหมอบ เสือภูเขาปั่นขึ้นกันฟิ้วๆๆๆ เกาะตามเลยครับไม่รอช้า ปรับเกียร์ 1 ซัดเลย ผ่านโค้งแรกก็มีสภาพอย่างที่เห็น 5555 มอบครับ ยอมมอบตัว เอาไปเก็บท้ายรถดีกว่าไว้รอบหน้าเอาลูกชายคนโตมาก่อนนะ แล้วเจอกันฝากไว้ก่อนดอยสุเทพ.....


 
     ว่าจะขึ้นไปบนสุดแต่มาติดใจวัดนี้ครับอยู่ซ้ายมือด้านหน้าเหมือนไม่มีอะไรไหว้พระเสร็จเห็นทางลงเลยหยิบจักรยานออกมา คราวนี้หละได้แสดงพลังของลูกชายคนเล็กสักที ไหลลงกันเลย ฮ่าาาา เอาจริง ๆ ยังไม่รู้เลยว่าข้างล่างมีอะไรแต่เห็นรถยนต์ลงไปขอตามไปด้วยละกัน ต่อไปนี้เป็น VDO บ้างนะครับเดี๋ยวจะเบื่อกันซะกัน
 

 
     สารภาพจากใจปล่อยไหลอย่างเดียว 555 เบรคตัวโก่ง ล้อเล็กสั่น ๆ เหมือนจะสบัดเลย เดชะบุญลงมาถึงล่างสุดปลอดภัยครัช บุญเก่ายังเหลืออยู่ ฮ่าาาา


 
     วัดสวยมากครับ คนก็ไม่เยอะสงบดีธรรมชาติสุด ๆ เดินชมรอบ ๆ แล้วได้ยินเสียงน้ำไหลมาจากหลังวัดเลยเดินตามเสียงไปดูครับ


 
     เอาหละมาถึงจุดที่ผมตามหาละนะ น้ำตกนั่นเอง!!! สวยมาก ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ ออกกำลังกายสักหน่อยละกัน ผมเป็นประเภทเห็นวิวสวยไม่ได้ ต้องเอาเหงื่อออกสักหน่อย ผมอยากให้ทุกคนเห็นว่าการออกกำลังกายสนุกนะครับ เวลาเห็นวิวสวย ๆ เลยอยากเอาภาพการออกกำลังกายสวย ๆ มาฝาก หันมาออกกำลังกายกันเถอะน้า สนุกดี สุขภาพก็ดีตามไปด้วย
 
 
 
อ่ะมีวีดีโอมาฝากด้วยยยย เล่นเอาเหงื่อชุ่มเลยหละครัช ฮ่าาา


 
     สุดท้ายไม่ได้ขึ้นดอยแล้วครับมืดแล้ว เลยมาที่นี่ครับตลาดถนนคนเดิน ของขายเยอะเลยเป็น Hand Made ด้วยนะครับช็อปกันตามอัธยาศัยเลย ราคาไม่แพงด้วยน้า ของสวย ๆ ทั้งน้านนน
 

 
     ก่อนกลับโรงแรมขอรูปเท่ ๆ สักรูปน้า อย่างที่บอกประทับใจกับมารยาทในการขับรถที่นี่มาก ไฟแดงคนข้ามเนียเค้าเบรคให้เลยหละ ขนาดบางคนไม่กดทำท่าจะข้ามรถยังพร้อมใจกันชลอความเร็วให้เลยยยยย


 
     อรุณสวัสดิ์ครัชผม เช้านี้ไปต่อกันที่นี่เลย สวนสาธารณะบนที่ดินของการรถไฟนั่นเอง!!! ระยะทางพอ ๆ กับสวนของวันแรกประมาณ 3 กม. จากโรงแรม ชิล ๆ ครับปั่นไปดู Gps. ไปก็เรามาครั้งแรกนี่หน่า ฮ่าาา ทางมาง่ายครับไม่มีอะไรซับซ้อน ตรง ๆ เลี้ยว ๆ ตามถนนใหญ่ สวนนี้คนไม่เยอะเลยครับเมื่อเทียบกับสวนของเมื่อวาน เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีคนเลยก็ว่าได้ ต้นไม้ร่มรื่นดีครับ



มีมุมให้ออกกำลังกายด้วย จัดสักหน่อย สักท่า 2 ท่าก็ยังดี


 
     กลับมาอาบน้ำอาบท่าทานเบรคฟาสสักหน่อยวันนี้ติดกล้องมาด้วย อวดอาหารหน่อยละกัน ^_^ เดี๋ยวทานเสร็จจะไปร่วมงาน Fast Fun Fest แล้วนะครัช จริง ๆ งานนี้ทางผู้จัดงานเชิญให้มาร่วมงานเลยหละ แต่ผมมาถึงก่อนกำหนดมาเที่ยวพักผ่อนไปในตัว อิอิ


 
     ถึงแล้วครับงานนี้เช่นเคยผมต้องพาลูกรักมาด้วยแน่นอน ในงานมีกิจกรรมเยอะครับหลายบูทเลยผมเดินดูไปเรื่อย ๆ มีประกวดเต้นด้วยน้าาา ดูแล้วน้องพวกนี้ซ้อมมาอย่างดี การซ้อมเต้นแบบนี้ผมบอกเลยเผาผลายแคลอรี่สุด ๆ ร่างกายต้องแข็งแรงระดับหนึ่งเลยนะครับถึงจะเต้นแบบนี้ได้ และแน่นอนครับมีรถสวยก็ต้องคู่กับสาวสวย ^_^


 
     สแตนข้างสนามมีประกวดเชียร์หลีดเดอร์ด้วยครับมีน้อง ๆ จากโรงเรียนหลายโรงเรียนเลย ดูท่าทางจะซ้อมกันมาดีนะครับพร้อมเพรียงสวยงามดูไปโยกตามไปด้วยเลย ฮ่า
 

 
     เดินไปเดินมาชักเมื่อยครับ เป็นเรื่องที่น่าแปลกมากเวลาผมออกกำลังกายด้วยการวิ่งหรือปั่นจักรยานยังไม่เมื่อยเท่ากับการเดินเลย ยิ่งเวลาไปเดินในห้างเนียนะเมื่อยมาก พอดีไปเห็นบูทนี้ครับมีบริการนวดด้วย ช้าอยู่ใยตรงดิ่งไปเลยสิครัช ที่สำคัญคือ นวดฟรี!!! มีน้ำ มีขนม มีชาร้อนเสิร์ฟฟรี อิอิ สบายตัวละทีนี้


 
     นวดเสร็จกลับเข้าไปข้างสนามต่อมีการแข่งรถหลายประเภทนะครับ ทั้งโชว์ต่าง ๆ มีแบบขับวนไปวนมาเหมือนกายกรรมแต่ใช้รถในการโชว์สวยดีครับ ไปจนถึงขั้นดริฟโชว์เลยใช้รถกระบะ Revo ครับผม ควันโขมงเลยยอมรับว่านี้เป็นครั้งแรกเลยครับที่ได้มางานแบบนี้ปกติดูแต่ใน TV มาเกาะขอบสนามแบบนี้มันถึงอารมณ์จริง ๆ ครับ
 

 
อวดรูปถ่ายคู่กับดารานักแข่งหน่อยเจอพี่กวาง ซานิ พี่เติ้ลและดีเจเดย์ด้วยครับ


     มาดูจุดพิทรถบ้าง มีการจัดแบ่งเป็นโซน ๆ เป็นระเบียบเรียบร้อย ดูเป็นสัดเป็นส่วนและสะอาดดี นี่เดินมาดูช่องของดารานักแข่งแต่ละคน เดินดูไปเรื่อย ๆ ไปเจอคุณซานิพอดีจัดอีกสักรูปละกันนะนะครัช รอบนี้แบบส่วนตัวเลยหละ ^_^


 
     มาดูภาพมุมสูงของสนามกันบ้างสวยมากครับมุมนี้ถ่ายจากด้านในของสนามกีฬาปีนขึ้นไปชั้นบนสุดเลยถึงจะได้ภาพนี้มา จุดเด่นของสนามนี้คือภูเขาครับ สีเขียวขจีสวยมาก ^_^ ด้านล่างมองลงไปเห็นจุดพิทรถกับสนามแข่ง ด้านซ้ายจะเป็นโซนของเจ้าหน้าที่สนามครับ บนถนนยังมีรอยยางของการโชว์ดริฟรถอยู่เลย


 
     ตอนจบมีคอนเสิร์ทโปเตโต้ด้วยครับระหว่างรอโปเตโต้มา ผมเดินเล่นหลังเวทีไปเจอพี่โจอี้บอยด้วยปั่นจักรยานมางานเลย ชุดนักปั่นเต็มตัวเรียกได้ว่ามาเต็มยศเลย ฮ่าาา คนรักจักรยานด้วยกันคุยกันรู้เรื่อง ก่อนขอตัวออกมาก็ขอเซลฟี่สักรูปละกันน้าาา


 
     และสิ่งสุดท้ายที่รอคอย พี่ปั๊บก็มาถึงละครับท่านผู้ชม เสียงสาว ๆ กรี๊ดกันใหญ่เลย มันมากครับคอนเสิร์ทนี้ ฮ่าาา


 
     สรุปนะครับทริปนี้คุ้มมาก ๆ ได้หลากหลายอารมณ์จริง ๆ ได้ออกกำลังกายที่ใหม่ ๆ ได้เที่ยว ได้กินของอร่อย ๆ ได้ไปงานที่เป็นมากกว่างานแข่งรถมีกิจกรรมเยอะดีผมชอบ ทุกอย่างเนียคือประสบการณ์ดี ๆ จริง ๆ ครับผม ฝากรูปสุดท้ายเป็นรูปนี้แล้วกันนะครับ ถ่ายคู่กับสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปีที่จัดงาน Fast Fun Fest หล่อมั๊ยหละครับ ผมจะดูดีทุกภาพที่ไม่ได้หันหน้าเข้าหากล้อง 55555
 
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ ยอมรับเลยว่ากระทู้ยาวมาก แต่ทุกอย่างไม่อยากตัดออกครับอยากถ่ายทอดให้ทุกคนเห็น รู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกจริง ๆ ^_^ #โด-D-โด้
 
***ถ้าชอบการท่องเที่ยวและออกกำลังกายในตัวสไตล์ผมฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยผมนะครับเพื่อน ๆ เราจะได้เห็นกันเยอะ ๆ ^_^ ***

สามารถเข้าไปพูดคุยกับผม โด-D-โด้ ได้ที่ Fan Page : www.facebook.com/VchangeGroup

 
กดติดตามกัน เพื่อรับเรื่องราวดีๆ
Post by : โด-D-โด้
ผมอยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้นจึงอยากบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการดูแลตัวเองและการออกกำลังกายแบบง่าย ๆ และสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาแม้ไม่มีอุปกรณ์ครับผม ^_^ คุยกันต่อที่ www.facebook.com/VchangeGroup

- Goto Top -
Lastest Update
 
Other Articles