[ ในเมื่อยุคที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทอย่างมาก และครองตลาดคนอ่านในปัจจุบัน ]
จนส่งผลต่อ...สื่อสิ่งพิมพ์ทั้งในแง่ของการขายโฆษณา และยอดจำหน่าย ทำให้บริษัทผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ต่างประสบปัญหาขาดทุนกันถ้วนหน้า ทั้งนี้ เป็นเพราะคนส่วนใหญ่หันไปเสพสื่อออนไลน์กันหมด
เนื่องด้วยการนำเสนอเนื้อหาที่รวดเร็ว ทันเหตุการณ์กว่านิตยสาร อีกทั้งยังสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย จึงทำให้นิตยสารที่ต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนผลิต และใช้เวลาในการขนส่งกว่าจะมาถึงคนอ่านได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อยๆ
จากการเปลี่ยนแปลงพลิกโลกด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล ครั้งรุนแรงรวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ทำเอาทุกองคาพยพบนโลกต้องปรับเปลี่ยนกันขนานใหญ่ ไม่เว้น ไม่ปรานีปราศรัยแม้แต่สื่อ
โดยเฉพาะสิ่งพิมพ์ที่รับใช้สังคมทั่วโลกมายาวนาน วันนี้ก้าวเดินสู่สถานการณ์นับถอยหลัง จากจุดเปลี่ยนไปเป็นจุดจบอย่างไม่น่าเชื่อ
ซึ่งในปี 2018 นี้ มี ข่าวสื่อสิ่งพิมพ์ในต่างประเทศทยอยปิดตัวออกมาเป็นระยะ นับได้เป็นร้อยราย ตามมาติดๆ กับ ข่าวสื่อสิ่งพิมพ์ในไทย ก็ได้ทยอยปิดตัวก็ตามมาเป็นระยะๆ ที่ยังพยายามยืนหยัดก็มีการปลดคนทำงานเป็นระลอกๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านนั้นเอง
ธุรกิจร้านขายหนังสือ
สืบเนื่องมาจาก ยุคที่ผู้คนต่างนิยม เสพสื่อออนไลน์กันมาก เลยทำให้ ร้านหนังสือเจ๊ง! กันเป็นระนาว นอกจากสื่อสิ่งพิมพ์แล้ว ของคู่กันและเจอหายนะไปด้วยกันก็คือร้านขายหนังสือ ที่วันนี้แผงหนังสือตามชุมชน หายเกลี้ยงยกประเทศไปหลายปีแล้ว
เหลือเพียงแต่ร้านหนังสือรายใหญ่ดั้งเดิมตามจังหวัดต่างๆ ที่พอมีอยู่บ้าง แต่ก็ทยอยปิดตัวไปไม่น้อย ที่ยังเหลือยืนหยัดด้วยกำลังทางธุรกิจที่เป็นระบบก็คงจะเป็นร้านหนังสือยุคใหม่ที่บริหารในแบบบริษัท
- อย่างซีเอ็ด
- นายอินทร์
- บีทูเอส
ร้านเหล่านี้ ส่วนใหญ่ ก็ตั้งอยู่กับห้างสรรพสินค้าทั้งหลาย เหลือรวมๆ กันทั่วประเทศ คงอาจไม่ถึง 600 ร้าน ตามจังหวัดต่างๆ ก็อาจไม่ถึง700 ร้าน หากเจอเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้คนไม่เข้าห้าง ทั้งที่ปกติเดิมๆ ผู้คนเข้าห้างเยอะ ก็ซื้อหนังสือน้อยอยู่แล้ว
"ปิดท้ายให้เห็นชัดขึ้นด้วยตัวเลขข้อมูลร้านหนังสือหลักๆ ทั่วประเทศ"
เมื่อ ยอดวางแผง หายวูบ
ตามร้านขายทั้งหนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ รายปักษ์ 15 วัน นิตยสาร หายไปกว่าครึ่ง แม้กระทั่ง หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ที่เคยวางวันละ 50 เล่ม ก็คงจะเหลือแค่เพียง 20 เท่านั้น
นี่คือความเปลี่ยนแปลงจากกระแสเทคโนโลยี และสื่อใหม่ๆ ที่เหนือกว่า ผู้บริโภคสื่อสารส่งข่าวกันเองในชั่วพริบตา รับข่าวสารจากสื่อใหม่ๆ ทำธุรกิจโดยใช้เครื่องมือและใช้สื่อโฆษณาผ่านเทคโนโลยีดิจิตอลที่ทรงประสิทธิภาพกว่า สอดรับกับไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิตคนมากกว่า
โฆษณาในนิตยสาร หนังสือพิมพ์หายไปเพราะลงแล้วไม่มีคนอ่าน พิมพ์น้อยลงจากที่ค่อยๆ น้อยลงอยู่แล้ว เนื่องจากเมื่อวางร้านแล้วจะมีส่วนที่ขายไม่ได้เหลือคืนมาก ยิ่งขาดทุน
ความเปลี่ยนแปลงที่ถูกกระตุ้นเร้าจากทั้งรูปแบบ รสนิยมใหม่ๆ และลักษณะพื้นฐานเฉพาะของโลกทัศน์ - วิถีชีวิตแบบเดิมๆ ในผู้คนชาวไทย
*********
สนใจติดตามข้อมูล อ่านต่อได้ที่
https://www.facebook.com/Pantae.fan
กดติดตามกัน เพื่อรับเรื่องราวดีๆ