[howto] รวม 7 ไอเดียการแต่งตัว! ไปงานลอยกระทง! ฉลองวันเพ็ญเดือนสิบสอง แบบยุค 70’s ...คุณค่าที่ผู้หญิงคู่ควร

 
 
 
     เดือนพฤศจิกายนแล้วนะคะ เร็วมั้ย…. เกือบ 1 ปีที่ผ่านมา มีอะไรที่ยังไม่ได้ทำบ้าง?…อะ อะ เหลืออีก 1 เดือน รีบจัดเลย ส่วนบางคน เค้าก็ตั้งตารอคอยวันพระจันทร์เต็มดวงนี่แหละ กาปฏิทินโตๆเป็นอีกหนึ่งภารกิจ555 #ลอยกระทงอธิษฐานหาเนื้อคู่ ….ก็หลาวววแต่…. จะด้วยภารกิจอันใด ประเพณีไทยก็ยังสืบสานมาด้วยดี อยากให้ทุกคนรักษาไว้ เข้าใจมันอย่างถ่องแท้
 
  • ถึงตรงนี้ทรายขอเกริ่นนำเน้นๆนะคะ ว่าทำไมเราต้องลอยกระทง? ลอยไปเพื่ออะไร?

     ประเพณีการลอยกระทงมีตั้งแต่สมัยสุโขทัยเนอะ คืองานลอยประทีป ต่อมาท้าวศรีจุฬาลักษณ์เปลี่ยนจากลอยโคมเป็นลอยกระทงดอกบัวแทนเพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมหานที ประเทศอินเดีย ซึ่งสืบทอดมาจากพิธีพราหมณ์ ที่ต้องการบูชาพระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ซึ่งปัจจุบันได้แปรเปลี่ยนมาเป็นความเชื่อที่ต้องการขอขมาพระแม่คงคา … จะบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อแบบไหน ล้วนดีและจรรโลงจิตใจทั้งนั้น ขอทุกคนเจตนาดีมีสุขก็โอเคร้ ทุกเหตุผลล้วนมีคุณค่า ได้แก่

1.        กระชับสัมพันธ์ครอบครัว ไม่ว่าจะมาเป็นครอบครัว หรือมากับคนรัก เทศกาลนี่ทำให้ใจเราเชื่อมต่อกัน เป็นวันที่รอคอยที่เราจะได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน ..พ่อ แม่ ลูก รีบกลับบ้าน บางบ้านมาร่วมกันทำกระทงก็มี สถาบันครอบครัวแข็งแรง
2.       คุณค่าต่อหมู่บ้าน ชุมชม เพราะบางที่ เค้าร่วมแรงร่วมใจจัดงานลอยกระทงขนาดใหญ่ ใช้ความสามัคคีของทุกคน เสร็จงานก็ทำความสะอาดแม่น้ำคูครอง
3.       สืบสานศาสนา เป็นการช่วยทำนุบำรุงศาสนา  ซึ่งงานมักจัดที่เขตวัด และทางวัดก็จะมีพิธีทางพุทธเพื่อความเป็นมงคล แต่อย่างไรคุณค่าที่กล่าวไปข้างต้นแล้วนั้น กล่าวได้ชัดๆคือ เราได้ระลึกคุณพระพุทธ ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
4.      คุณค่าต่อตัวเราเอง …นี่ล่ะ ข้อนี้ล่ะเด็ด …เราไปงานลอยกระทง ทรายว่าทุกคนก็ไปด้วยใจที่มีสุข เรารักตัวเองมากขึ้น เราออกไปเที่ยว ดูความสวยงามของผู้คนและไฟประดับ จิตใจเราจะละเอียดอ่อนขึ้น เรามีศีลธรรมจรรยามากขึ้น เพราะเราอยากขอบคุณสายน้ำ ขอบคุณพระแม่คงคา นั้นคือความกตัญญู …. การสะเดาะเคราะห์ก็ทำให้ใจปลอดโปร่งขึ้น มีแรงมากขึ้น เป็นสุขมากขึ้น นั่นแหละ….
 
***ทั้งหมดก็ถือเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งนี่เอง***
 
 
  • แต่งตัวไปงานลอยกระทงอย่างไร? แล้วมีคุณค่าอย่างไร?
     ถ้าให้พูดถึงหลักการทำงานเลยเนี่ย การแต่งตัวคือการสื่อถึงบุคลิกภาพ นิสัย อารมณ์ของเรา …คนถึงมักตัดสินเราที่การแต่งตัวด้วยเหตุผลหลักๆ…. แต่นี่ก็ไม่ใช่เหตุผลเท่าไหร่ที่ทรายจะมานำเสนอไอเดียการแต่งตัวไปลอยกระทงปีนี้
     …เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในจิตจายยยค่ะ ให้พูดสั้นๆก็คือ เมื่อใจมีกำลัง การกระทำก็จัดเต็ม…. เดี๋ยวๆๆ เกี่ยวไรกับการแต่งตัว ….ก็ถ้าคุณออกนอกบ้านไป ไปกับเพื่อน ไปกับญาติ ไปกับแฟน คุณก็ต้องจัดแจงจัดอง… ทรายเชื่อว่าถ้าเราแต่งตัวดี เป็นตัวเอง ถูกกาลเทศะ ….เราก็จะมั่นใจ …พบใครก็เบิกบาน…ตอนลอยกระทงก็จะมีสมาธิ เมื่อระลึกถึงพระแม่คงคา จิตเราก็ตั้งมั่นเบิกบาน และ อธิษฐานอย่างมีพลังงง เอางี้ สรุป! ผู้หญิงอย่าหยุดสวยค้า เอ้า.. เริ่ม!

ดังนั้นข้อปฏิบัติสำหรับไปงานลอยกระทงของทรายสีคือ
1.        อย่าโป๊ ….ลอยเพื่อพระแม่คงคา ลอยเพื่อระลึกถึงพระพุทธ เราก็แต่งให้เรียบร้อยเถอะนะ
2.       ใส่กระโปรง อย่ายาวจนเกือบลากพื้น เพราะอะไร? เลอะเทอะค่ะ บางทีตลิ่งเป็นดินเป็นโคลน โอยยย ไม่อยากนึกสภาพ บางที่คนเยอะ อย่าให้เค้ามาเหยียบเลย ยาวแต่พอดี จะมีชัย
3.       อย่าหนามาก ใช่ค่ะ หน้าหนาวมาแล้ว แต่บ้านเรา! จะหนาวซักแค่ไหน ใส่เสื้อมาพอถ่ายเท สบายๆดีกว่า จะได้ไม่ร้อนนนน
4.      รองเท้าอย่าสูง แต่สำหรับสาวๆที่ไม่แคร์ ก็เชิญญญ …แค่ห่วงสภาพตอนก้มจะลอยกระทงอะค่ะ จะลำบาก บางที่ตลิ่งเป็นดินนะอย่างทีบอก เอาส้นสูงไปปักโคลนทำไม
5.       ใส่เสื้อสีสดใสตามชอบเล้ยยยย วันพระจันทร์เต็มดวงนี่ (ไม่กลายร่างนะ)
 

    เอาล่ะซักที! ทรายขอเริ่มไอเดียอย่างแรกเลย กับการแต่งตัวที่อินสไปล์มาจากยุค 60’s 70’s คำถามคือแล้วทำไมต้องย้อนยุค ….สำหรับส่วนตัวแล้ว เมื่อคิดถึงเทศกาลลอยกระทงก็จะนึกถึงงานวัด ย้อนวันวาน รุ่นปู่รุ่นแม่ เป็นตีมคลาสสิกที่ไม่มีวันตาย ทรายสีก็นำไอเดียมาเฉพาะที่ดูเข้าทีกับงานเทศกาลของเราค่ะ จะฮิปปี้ สวิงกิ้งก็เกิ๊นนนนไป

 
1.        เดรส หรือชุดแซกสั้นพอดีตัว ในลุคคุณหนู
 
เป็นช่วงยุคที่เดรสมีลวดลายสวยงาม สีสันโดดเด่นเต็มที่ กราฟฟิคเส้นสาย ดอกไม้
จะแขนกุดแขนสั้นก็ได้ สบายมาก กระโปรงเหนือเข่าเล็กน้อย ไม่น่าเกลียดนา
…จะทำผมทรงทองกวาว ก็ได้ 5555
ถ้าชุดของคุณ ลวดลายดูแก่ไป แนะนำให้ลองใส่กับรองเท้าผ้าใบดูสิ เผื่อช่วยได้เนะ

 
ลวดลายกราฟฟิคแบบแอ๊บแต๊ค เรียกว่า Psychedelic สมัย 1970

ส่วนนี่ก็ลายดอก คลาสสิคแมกกกก
ผ้าบางเบาสบาย แขนยาวก็คงไม่ร้อนค่ะ

จะเป็นเดรสสีพื้นก็เรียบง่ายดี ตามในรูปนี่ชิคมากกกค่ะ เพราะเดรสสีเหลือง เข้ากับงานเราจิมๆ

ยุค 70 เป็นเดรสหนังกลับแขนกุดก็สวยค่า เรียบหรู ทุกโอกาส
 
 
2.       กระโปรงทรงเอ ในลุคใสๆ และกระโปรง Midi Skirt คลาสสิคดูแพง
 
ยุคนี้ต้องกระโปรงทรง A ค่ะ  ใส่แล้วทะมัดทะแมงเช่นกัน เวลาก้าวขาก็สะดวก ใส่พอดีตัว ประมาณเข่าหรือเหนือเข่าเล็กน้อยก็งาม
ลุคนี้ได้ความใส ความน่ารักไปครองเลย กระชากวัยๆ... ใส่กับเสื้อแขนกระดิ่งอีก ตามรูปนี่ยิ่งน่ารักเลยน้า

 นี่กระโปรงหนังกลับ สีแดงส๊วยสวย เรียบๆ ส่วนเสื้อเป็นเสื้อแขนสั้นสีเข้มกว่ากระโปรงก็เข้ากั๊นเข้ากัน
 
ต่อมาที่ Midi Skirt เห้ยยะ …สีเข้ากับงานมากกก สีเขียว ส่วนความยาวประมาณเข่าหรือน่องก็ได้
แบบนี้เมื่อใส่กับเสื้อแขนกุดจะดูหรู ถ้าใส่กับเสื้อเชิ้ตก็ได้ลุคเท่ ชิล โอ้เย
 
ถ้าเป็นกระโปรงที่บานหน่อย ก็จะเลอค่ามากกก สวยจัด

นี่คือ Midi Skirt ที่ใส่คู่กับเสื้อเชิ้ต ดูสบายดูชิลอย่างมีราคานะคะ ขอบอก

นี่เป็นกระโปรงพลีส กับเสื้อแขนกุด พร้อมรองเท้าผ้าใบ สตรีทไปเลยยย
 
3.       เสื้อกั๊ก ให้อารมณ์ Hippie
 
 
ยิ่งใส่กั๊กนี่ยิ่ง 70’s แบบฮิปปี้สไตล์เลย ยิ่งเป็นกั๊กยีนต์แขนกุดด้วย กางเกงจะยีนต์ขายาว ขาบานก็ได้เลย
 
 หรือจะเป็นกั๊กลวดลายก็ได้นะ ดูแก่นเซี่ยว 70’s ใส่กับกางเกงยีนต์ ใส่กับกระโปรงทรง A หรือกระโปรงยาวก็ดี
จริงๆได้หมดค่ะ เพียงแต่ เป็นผ้าสีพื้น ไม่มีลวดลายนะคะ (กั๊กลายแล้ว อย่างอื่นอย่าลายอีก)

 
4.      กางเกงขาบาน ไอเท็มมาแรง
ช่วงนี้เข้าเริ่มฮิตกางเกงขาม้าหรือขาบาน หมุนเวียนมาอีกรอบละคะคุณผู้อ่าน แต่ทรายฮิป(ปี้) ตลอดเลยมีติดตู้ไว้เสมอ
 
กางเกงขาบานขากระดิ่ง ทรายไม่อยากให้ละพื้นมากนะคะ กลัวเปื้อนดินริมตลิ่งค่ะ ลองดูตัวที่พอดีๆนะ
ส่วนเซ็ทนี้ทรายอยากนำเสนอกางเกงยีนต์ใส่กะเสื้อยีนต์เลยค่ะ เท่ขั้นสุด แต่เฉดสีต้องไม่เท่ากันนะคะ ตัวเสื้อต้องสีอ่อนกว่าหน่อย พอเข้ากันฮะ

 
นี่ก็เท่เลยยย ใส่กับเข็มขัดหนังสีเข้มเพื่อแยกส่วนก็ได้นะคะ ถ้าสีเสื้อกับกางเกงเกือบใกล้เคียงกันแบบนี้

และนี่คือไอเท็มกางเกงขากระบอกใหญ่ค่ะ ขาบานมาก ฮิตยุค 70’s เช่นกัน ใส่แล้วดูคุณนายมาก พอใส่กับเสื้อยีนต์ก็ลดความจัดลง เรียบหรูดูรวย ชิลๆค่ะพี่

 
5.       เอี๊ยมยีนต์ ให้ลุคซ่าลูกกำนัน
 
เอี๊ยมยีนต์เป็นกระโปรงทรงเอ ก็น่ารักแก่นเฟี้ยว จะใส่กับเสื้อแขนกุดแขนยาวก็ดี สามารถใส่รองเท้าผ้าใบ เพื่อเร่งดีกรีความแก่น
 
เอี๊ยมยีนต์กางเกงขายาวก็ใช่ค่ะ จะใส่คู่กับเสื้อแบบไหนก็ได้  
ยิ่งถ้าใส่เป็นเสื้อยีนต์ตัวใหญ่ๆพองๆด้านในนี่….รุ่นแม่ยังเด็กเลย 5555 เฟี้ยวววสุด….
ลุคนี้แนะนำหาผ้า Bandana มาผูกคอก็เพิ่มสไตล์มากขึ้นเลย

 
เยี่ยงนี้ไง … โอเย เย
 
6.      ผ้าโพกหัว ลุคไฉไล 70’s สุดๆ
 
บอกเลยว่า ยุคนี้ต้องผ้าโพกหัว อิอิ นอกจากหมวกและแว่นเลนส์กลมกับเหลี่ยมแล้ว ผ้าโพกหัวสวยๆซักผืน ก็ให้อารมณ์ 70’s มาแรงเลย
ซึ่งสาวๆก็มักใช้เป็นลายต่างๆตามชอบ ขอให้เข้ากับสีชุดเป็นพอ จะมัดผมแล้วโพกก็ได้ทะมัดทะแมงดีนะคะ ไม่ร้อนด้วย

ปล่อยผมแล้วโพกก็คุณหนูสุดๆ ลุคหวานน่ามอง เหมาะกับคุณผู้หญิงจิงๆเลย
 
7.       ถุงเท้ามีลวดลายสะดุดตา
 
ยุคนี้ถุงเท้าต้องสีสัน ลวดลายเยอะค่ะ ถ้าจะใส่กับรองเท้าผ้าใบ หรือ รองเท้า Loafer ก็ได้
 
จะเป็นลายจุดหรือลายทางก็ได้ เกร๋กันไป จริงๆยุคนี้เข้าใส่ถุงเท้าสูงเหนือเข่าเลยด้วย แต่สำหรับบ้านเราวันลอยกระทงก็สั้นๆพอเนอะ 555
 
     เอ้า หมด ๆ 7 ไอเท็มที่ทรายสีแนะนำสำหรับงานลอยกระทงสไตล์ยุคเซเว่นตี้ของเรา จะได้ช่วยเพื่อนๆให้เป็นแนวทางในการมิกซ์แอ่นแมทซ์ได้เนอะ การที่ทรายเลือกตีมนี้ก็อยากให้ทุกคนมีโมเม้นร่วมกับงานไปอีกขั้น เวลานึกถึงงานลอยกระทงก็จะนึกถึงแสงสีเสียงการละเล่นของงานวัด มันจะเป็นบรรยากาศของยุคนี้เลยล่ะฮะ

    คุณผู้หญิงทุกคนก็ลองเลือกดูนะว่าไอเท็มไหนเหมาะกับเรา สิ่งไหนเรามั่นใจ ซึ่งนั้นสำคัญที่สุดเลยล่ะฮะ อยากให้ไปงานลอยกระทงแบบสนุกๆนะฮะ
ทรายขอให้เพื่อนๆได้สมหวังตามที่ตั้งใจนะคะ เวลาลอยกระทงก็ให้จิตของเราระลึกและเชื่อมต่อกระทงกับผืนน้ำ เพื่อขอบคุณพระแม่คงคา ให้ชีวิตเจอแต่สิ่งดีๆ… ดอกบัวก็ยังเป็นดอกไม้ประจำศาสนาพุทธมาช้านาน เมื่อพระพุทธเจ้าประสูติก็มีดอกบัวมารองรับถึง 7 ก้าว 7 ดอก ขอให้เราเคารพและนอบน้อม แม้กระทั้งการแต่งกายของเราก็ตามค่ะ

    ขอบคุณท้วมท้น


 
Varin The tale’
Fanpage : http://www.facebook.com/runtheworld.society/
Intagram : Varinthetale
 


Cr.photo :
aelida
artbangkok
mozo.com.au
kokolife.tv
whowhatwear.com
fashionshowon.com
thefashiontag.com
elahawkevintage.com
blushoutthedoor.com
chictopia.com
birdonawirevintage
missrenaissance.wordpress.com
salonmonster.com
Dolce & Gabbana และ Marc Jacob
Pinterest
Pantip.com

 
 
Created date : 13-11-2015
Updated date : 13-11-2015
กดติดตามกัน เพื่อรับเรื่องราวดีๆ
Post by : Varin the tale
นอกจากการทำสิ่งที่ต้องทำ เพื่อตัวเองและตอบแทนคุณผู้มีพระคุณ... เป้าหมายกว้างใหญ่ของทรายสีนั่นคือ การค้นพบและขยายเรื่องราวเอกลักษณ์อันเฉพาะ (Art of culture and talented) ของชาวไทยให้มีความภูมิใจและเด่นชัดในระดับนานาชาติ... Branding ประเทศไทยให้เป็น Land of talented... อย่างน้อยในฐานะคนไทยที่รักในหลวง ติดตามต่อได้ที่ เพจ Run The World

- Goto Top -
Lastest Update
 
Other Articles