[review] พี่หมีพาเที่ยว...สีสีนแห่งลำน้ำซอง วังเวียง Part 1

 
 
 

              เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะว่าปีใหม่ปีที่แล้วมีพี่คนหนึ่งที่ออฟฟิศบอกว่า "เฮ้ย...พวกเราเก็บตังไปเที่ยวต่างประเทศกันดีกว่า ไปที่ไหนเดี๋ยวว่ากันเก็บตังกันก่อนค่อยไปตอนปลายปี พี่หมีนี่มีพลังเลยครับอยากไปเที่ยวต่างประเทศแบบว่าไปเที่ยวจริงๆสักที เพราะส่วนใหญ่ที่ไปต่างประเทศก็ไปทำงานตลอด พอถึงเดือนสิงหาเราก็มาปรึกษากันว่าเราจะไปเที่ยวไหนกันดี พอมาเปิดดูบัญชีถึงกับกุมขมับมีเงินอยู่ไม่ถึงหมื่นแต่ดันอยากไปเที่ยวต่างประเทศ พอได้คุยกับพี่ๆคนอื่นก็พบว่า ไม่ต่างกันเลย555 เอาแล้วงัยมีเงินแค่นี้จะไปเที่ยวไหนได้ สุดท้ายก็สรุปได้ว่าเราไป ลาว กันดีกว่าเห็นเขาว่าที่ วังเวียง อากาศดี๊ดี อย่างน้อยก็ต่างประเทศแหละไปสัก 3 วัน 2 คืน พล่ามมานานเข้าเรื่องกันดีกว่า...

           
Part 1นี้พี่หมีจะเล่าเรื่องการเดินทางของทัวร์อนาถานี้ให้ฟังก่อน(ให้อ่านดิฟังยังงัย) เริ่มตั้งแต่ออกเดินทางจาก กรุงเทพ จนถึงวังเวียงว่าเดินทางไปยังงัย ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ซึ่งก็อยากให้เพื่อนๆดูรีวิวจากที่อื่นประกอบด้วย 

          หลังจากศึกษาการเดินทางแล้ว(เหรออออ...) ก็พบว่าเวลาเราช่างมีน้อยเหลือเกิน ไม่อยากเสียเวลาไปกับการเดินทางเลย นั่งรถทัวร์ไปคงจะไม่ใช่เรื่องแน่ก็เลยเดินทางด้วยเครื่องบินดีกว่า ซื้อเวลาด้วย หลังจากลงเครื่องนี่แหละจะบอกว่าทริปนี้เป็นทริปที่ "งานงอก" กันทั้งทริป มีเซอไพรซ์เรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างบานปลายไปพอสมควร วางแผนการเดินทางแผนเดียวไม่พอครับ ต้องมีแผน 2 (ที่เพิ่งคิด)ตลอด แต่พี่หมีคิดว่ามันก็สนุกดีอ่ะ ดิบๆแบบนี้แหละพี่ชอบบบ...  ก็เลยอยากจะบอกเล่าอย่างละเอียด ให้ได้รู้เผื่อข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวกันครับ

 

         ทริปนี้พี่หมีได้จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าไว้เป็นเดือนๆ (จองสิงหาคม เดินทางตุลาคม) ค่าตั๋วเครื่องบินก็เลยไม่แพงมาก ไป-กลับ ตกคนละประมาณ 1,500บาท  พอถึงวันเดินทาง ตื่นแต่เช้าตั้งแต่ตี 4 มาถึงสนามบินตี 5 รอขึ้นเครื่องไฟลท์ ตี 5.55 จากดอนเมือง ไปอุดร  พอมาถึงสนามบินเท่านั้นแหละ แม่จ้าวววววว........ มาแล้วงานงอกแรก 


                  
 

                    มนุษย์ทำมัยมันเยอะอย่างนี้ โชคดีที่พี่หมีเป็นเจ้าพ่อเทคโนโลยี ใช้ แอ๊พพลิ่เค๊ชั่น ดูปากพี่่หมีนะคะ แอ๊พพลิ่เค๊ชั่น มั่นกะแอพซื่อๆหนี่หล่ะ(ภาษาลาว) พี่หมีใช้แอพในการจองตั๋วและก็เช็คอินเลยครับ พอมาถึงก็ยื่น บอร์ดดิ้ง พาส เดินเข้า เกท ได้เลย ไม่เสียเวลาแต่ถ้าใครไม่ได้เช็คอินผ่านแอพต้องเผื่อเวลาให้มากกว่านี้นะครับ (ดอกแรกรอดไปและ) สมัยนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะครับเทคโนโลยีในมือใช้ให้มันคุ้มค่าให้มันเป็นมากกว่า แอพแต่งรูป กับเล่นเฟซบุ๊ค ไม่ได้ว่าใครน๊าาาา ใช้เวลาเดินทางด้วยเครื่องบินไม่ถึงชั่วโมง เราก็ถึงสนามบินอุดรครับ ถึงเวลา 6.50 ลองคิดดูว่านั่งรถทัวร์ล่ะ คงอยู่แถวๆรังสิตอะครับพี่น้อง

                   
                   
                   

 

                    พอลงจากเครื่องบินก็รีบทำเวลาเลยครับรีบนั่งแท็กซี่จากสนามบินอุดรไปที่ บขส.โดยด่วน ค่าโดยสาร 4 คนคนละ 50บาท  ที่รีบไปเพราะรถ บขส.ที่วิ่งจากอุดรไปวังเวียงนั้นมีแค่เที่ยวเดียวคือเที่ยว 8.30 ค่าโดยสารรถ บขส. คนละ 320 บาท ดูเวลาแล้วเหอะๆ สบ๊ายยยย........ยังงัยก็ทันชิลๆ ไปค่ะพี่สุชาติ แต่พอไปถึง บขส. เท่านั้นแหละ........... แม่จ้าววววว......


                    

               มนุษย์อีกแล้ววววว ลองนับดูคนประมาณ 60-70 คน แต่รถคันเดียว เลยทราบชะตากรรมของตัวเองแล้วว่า งานงอกอย่างเป็นทางการ คราวนี้เลยต้องงัดแผน 2 (เพิ่งคิดออกสดๆ) ด้วยความที่ผิวหน้าของเรามันหนากว่าปกติจึงเดินเข้าไปถามน้องๆกลุ่มนึงที่ดูเหมือนจะประสบชะตากรรมเดียวกัน เลยรวมกลุ่มกับน้องๆ ได้ 12 คนพอดี เหมารถตู้ไปลงหน้าด่านหนองคายกันเลย พวกน้องๆก็โอเคมากครับเฟรนด์ลี่จิงๆ แบ่งน้ำแบ่งปิ้งไก่ข้าวเหนียวกินกัน หยังกะมาเที่ยวด้วยกันเลย มิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่จริงๆครับ ค่าโดยสารตีเหมาไปก็คนละ 50 บาท สาเหตุที่ไม่ทันรถ บขส. เพราะว่ามีรถ กรุงเทพ-อุดร ออก 22.00 มาถึง 6.00 พอดี นั่นหมายถึงคนขึ้นรถทัวร์จะได้เปรียบเรื่องเวลามากกว่า แต่จะเหนื่อยเดินทางหน่อย ลองวางแผนกันให้ดีๆครับ 


                     
     

                   กรรมของตากล้องถ่ายรูปให้คนอื่นได้แต่ไม่มีตัวเองในรูปเลย T T 3คนหน้าเป็นกลุ่มพี่หมีเองครับ ข้างหลังที่เหลือคือน้องๆที่มาร่วมชะตากรรมไปด้วยกัน


                     

                   เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องกรอกเอกสารครับ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ บัตรขาเข้า และ บัตรขาออก ให้กรอกบัตรขาออกก่อนครับ ขาเข้ายังไม่ต้องกรอก หรือถ้าขยันก็แล้วแต่ ตรงนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ แล้วก็เตรียมพาสปอร์ตให้เรียบร้อย ยื่นเอกสารเสร็จเรียบร้อยก็ซื้อตั๋วรถข้ามไปฝั่งลาวได้เลยครับ ตรงนี้ผมจำไม่ได้ว่ากี่บาท แต่ไม่แพงครับ


                    
                   

 

                  มาถึงครึ่งทางแล้วววว.......เหมือนเดิมครับพอข้ามมาฝั่งลาวแล้วเราก็ต้องมากรอกเอกสารเหมือนเดิม แต่คราวนี้ให้กรอกฝั่งขาเข้านะครับ เตรียมพาสปอร์ตไว้เหมือนเดิม  แต่เมื่อมาถึงจุดนี้จะมีขั้นตอนเพิ่มอีกอย่างคือต้องซื้อตั๋วผ่านแดนด้วยนะครับโดยใช้พาสปอร์ตไปยื่นเพื่อซื้อตั๋ว ประมาณ 5 บาท ในวันปกติ เสาร์-อาทิตย์ จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ รวมๆกันไปซื้อก็ได้ครับจะได้ไม่เสียเวลา 


                   
                   
                   
         

                  และเมื่อทุกอย่างครบแล้วก็ไปต่อแถวที่ ตม. ครับ เห็นคนต่อแถวแล้วปวดจิตเยอะเหลือเกิน ระหว่างรอก็เลยเดินไปแลกเงินครับอยู่ใกล้ๆเลย ด้านซ้ายในภาพข้างล่างครับที่เป็นห้องกระจก จริงๆแล้วประเทศลาวใช้เงินไทยได้นะครับ แต่แนะนำให้แลกไว้ดีกว่าจะได้ไม่งง อีกอย่างจะได้ไม่โดนพ่อค้าแม่ค้าฟันด้วย  ตอนที่ผมไป 1 บาท = 240 กีบ ครับแต่ตอนนี้น่าจะลดลงมาเหลือสัก 230 แล้ว หลังจากนั้นบัตรผ่านแดนที่เราได้ซื้อมาตอนแรกมาหยอดตู้เหมือนขึ้นรถ ไฟฟ้าบ้านเราเลย ก็ไม่รู้จะทำมาให้มันยุ่งยากทำมัยนะถือแปปเดียวหยอดคืนและ ไม่ได้หยอดด้วยดิยื่นให้พนักงานที่ยืนรอเลย 


                   
                   

                  
                  ในที่สุดเราก็เหยียบแผ่นดินลาวแล้ววววววว...ภารกิจต่อไปหารถตู้มุ่งหน้าสู่วังเวียง น้องๆกลุ่มเดิมก็ยังร่วมชะตากรรมด้วยกันอยู่ครับเหมารถตู้จากด่านไปวังเวียงเลย รถตู้คิดเหมาหัวละ 200 ครับ เสียเวลาที่ด่านอยู่เป็น ชม.เหมือนกันครับดูนาฬิกาก็เที่ยงกว่าและ รอใครตัดริบบิ้นอีกล่ะ ไปค่ะพี่สุชาติ ....
                 ในการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม. กับระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร แล้วแต่สภาพจราจรเนื่องจากถนนเส้นที่ไปวังเวียงนั้นเป็นถนน 2 เลน แล้วส่วนใหญ่สภาพถนนจะไม่ค่อยดีนั่งๆไปรู้สึกไส้จะหลุดออกมากองกะพื้น เกือบอ้วกแตกกันเลยทีเดียว ไหนจะ เจ็ก หมา กะลา ทราย อีกทำให้การเดินทางยิ่งช้าลงไปอีก แต่แล้วในที่สุด......


                   

                 

              พอมาถึงก็แยกย้ายกันกับพวกน้องๆ ไปหาที่พัก มาถึงวังเวียงก็เกือบจะ 4โมงเย็นและครับ หายไปแล้ว 1 วัน แต่ก่อนอื่นต้องหาเช่ามอเตอร์ไซค์ก่อนเพื่อความโฟลวในการเที่ยว เพราะในวังเวียงมีที่เที่ยวค่อนข้างเยอะอยู่ ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ที่นี่จะอยู่ที่ 120-200บาท ต่อวัน แล้วแต่รถครับ แต่รถที่ผมเช่า 200บาท ครึ่งวัน จะให้เช่าเวฟจีนมาขี่ก็กระไรอยู่ ยิ่งถนนเป็นลูกรังซะส่วนใหญ่ด้วย อย่างพี่หมีแมนๆเตะบอลครับ ต้องเจ้านี่แหละ เหมาะสมที่สุดและ เจ้ารถคันนี้บอกเลยว่าสุดทีนจริงๆครับ สุดทีนที่พอจะเขย่งถึง เลือกรถไม่ดูสังขารตัวเอง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่อุปสรรคครับ เวลาที่เหลือวันนี้เลยไม่ค่อยได้ทำอะไรเพราะเหนื่อยกับการเดินทางพอสมควร เลยได้แต่แว๊นไปมาชมเมือง ดูสาวๆไปเพลินๆ เสร็จแล้วก็มานั่ง
ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติยามเย็นจิบ "เบยลาว" เย็นๆ บรรยากาศดีมากๆครับ แล้วเรารีบก็พักผ่อน เก็บแรงไว้ใช้ในวันพรุ่งนี้

                  
                  

                     ก็ขอจบพาร์ทแรกแต่เพียงเท่านี้นะครับ เล่ามาตั้งนานมีรูปตัวเองอยู่รูปเดียว สำหรับพาร์ต่อไปจะเป็นการกินเที่ยวในวังเวียงล้วนๆและ อยากจะจบในพาร์ทเดียวแต่มันมีเรื่องเล่าเยอะเลยแบ่งดีกว่าเดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน ฝากติดตามพาร์ทต่อไปที่ลิงค์นี้เลยจ้า http://goo.gl/ap0Ufv
 

                   

                หากมีข้อสงสัยอะไรสามารถพูดคุยกันได้ครับที่                      https://www.facebook.com/pitipat.pattanapitapong

Created date : 01-02-2016
Updated date : 01-02-2016
  • TAGS  
กดติดตามกัน เพื่อรับเรื่องราวดีๆ

- Goto Top -
Lastest Update
 
Other Articles