ปลานิล...เรื่องราวของ ปลานิล เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2508
โดยสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศมกุฏราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น ได้น้อมเกล้าฯ ถวายปลาน้ำจืดในตระกูลทิลาเปีย (tilapia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tilapia nilotica Linn. จำนวน 50 ตัว แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประเทศไทยจึงมีปลาน้ำจืดชนิดนี้เป็นครั้งแรก
ทรงพระราชทานชื่อปลาชนิดนี้เป็นภาษาไทยว่า "ปลานิล"
มีความหมายว่ามี สีดำ คือ สีนิล
ในระยะแรกนั้น...พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงทดลองเลี้ยงปลาทั้ง 50 ตัวด้วยพระองค์เอง
ต่อจากนั้นได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายปลาลงเลี้ยงในบ่อดินซึ่งเพียงแค่ 5 เดือนเศษ ปรากฏว่าในบ่อที่เลี้ยงมีลูกปลาเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุดบ่อดินเพิ่มขึ้นเป็น 6 บ่อ
เมื่อ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2508 ได้ทรงปล่อยปลาลงเลี้ยงในบ่อเหล่านั้นด้วยพระองค์เอง หลังจากนั้นได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่กรมประมงทำการตรวจสอบการเจริญเติบโตของปลาทุกเดือน
ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่า ปลาชนิดนี้เจริญเติบโตได้รวดเร็วมาก
เมื่อ ปลานิล แพร่ขยายพันธุ์ออกไปได้มากเพียงพอแล้ว กรมประมงจึงได้แจกจ่ายพันธุ์ปลานิลให้แก่ราษฎรเพื่อนำไปเพาะเลี้ยงตามความต้องการ
โดยกรมประมงได้กำหนดให้ วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2510 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดระยะ เวลา 1 ปี 5 เดือน นับตั้งแต่วันที่กรมประมงได้รับพระราชทานปลานิลมาเป็นวันแจก "ปลานิลพระราชทาน" ให้แก่ราษฎร
ปลานิล สายพันธุ์แท้พันธุ์หนึ่งซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกในนามว่า "ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา"
นับตั้งแต่นั้นมา ประเทศไทยเราก็มี ปลานิล รับประทานอยู่ทั่วทุกหัวระแหง สนองพระราชดำริเผยแพร่อาหารโปรตีนราคาถูกให้ประชาชนได้รับประทาน เพราะคนในถิ่นทุรกันดาร
อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงไม่โปรดเสวย ปลานิล โดยพระองค์ท่านเคยตรัสว่า "ก็เลี้ยงมันมาเหมือนลูก แล้วจะกินมันได้อย่างไร"
ปลานิล เป็นปลาน้ำจืดที่คนไทยนิยมกินกันเป็นจำนวนมาก ด้วยเพราะมีประโยชน์มากคุณค่า หาซื้อง่าย นำมาปรุงเป็นเมนูอาหารจานอร่อยได้หลากหลาย
ประโยชน์ของปลานิล
- เพิ่มการทำงานของระบบประสาทและสมอง ปลานิล มีปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 ไม่น้อยไปกว่าปลาทะเลน้ำลึกบางชนิด ด้วยเหตุนี้ปลานิลจึงมีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง
- เป็นโปรตีนย่อยง่าย เนื้อปลาทุกชนิดจัดเป็นอาหารประเภทโปรตีนที่ย่อยง่าย เนื่องจากเนื้อปลาโดยลักษณะตามธรรมชาติจะมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันน้อยกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น
- เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย โปรตีนจากเนื้อปลามีประโยชน์ต่อร่างกายเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกรดอะมิโนที่พบในโปรตีนของเนื้อปลา
- เสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดเเละเสริมสร้างความเเข็งเเรงของกระดุกเเละฟัน เพราะ เนื้อปลาประกอบไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินหลากหลายชนิ
- ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน กรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกายอย่างไลซีนและทรีโอนีน ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของสารสร้างภูมิคุ้มกัน
- ป้องกันความแก่ก่อนวัย ในเนื้อ ปลานิล มีคอลลาเจนชั้นดีจากธรรมชาติ ทั้งยังมีโปรตีนช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและเซลล์ที่สึกหรอ ป้องกันความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ดี
- ต่อหัวใจ เนื้อ ปลานิล ไม่มีคอเลสเตอรอล หรือไขมันชนิดไม่ดีอันเป็นตัวการก่อโรคเรื้อรังอย่างโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง
กดติดตามกัน เพื่อรับเรื่องราวดีๆ